องค์ความรู้มวยท่าเสาพระยาพิชัยดาบหัก

Image

มวยท่าเสาพระยาพิชัยดาบหัก

มวยท่าเสา คือ มวยไทยโบราณสายหนึ่งของทางภาคเหนืออุตรดิตถ์ ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าสายมวยไทยท่าเสากำเนิดขึ้นเมื่อใด และใครเป็นผู้คิดค้น จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ปรากฏอยู่ทำให้ทราบว่า ครูมวยไทยสายท่าเสาที่มีชื่อเสียงโด่งดัง คนหนึ่งคือ “ครูเมฆ” ผู้ที่ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นในเรื่องของความคล่องแคล่ว ว่องไว รวดเร็ว เด็ดขาด มีลีลาท่าทางสวยงามและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม้เตะ ถีบ และศอก เป็นที่ลือกระฉ่อน จนนายทองดีฟันขาว ซึ่งต่อมาได้เป็นพระยาพิชัยดาบหักถึงกับปฏิญาณตนกับตัวเองว่า จะต้องมาขอเรียนศิลปะมวยไทยกับสำนักท่าเสาให้ได้

ครูเมฆได้ถ่ายทอดวิชามวยให้แก่ผู้สืบสกุลต่อมาจนถึงครูเอี่ยม ครูเอี่ยมได้ทำการถ่ายทอดให้แก่ผู้สืบสกุลคือ ครูเอม และต่อมาครูเอมได้ถ่ายทอดวิชามวยให้แก่หลานตา ๕ คน โดยทั้ง ๕ คนนี้ เป็นนักมวยตระกูลเลี้ยงเชื้อ ซึ่งต่อมากรมหลวงชุมพรฯ ได้เปลี่ยนให้เป็นเลี้ยงประเสริฐ ซึ่งทั้ง ๕ คน เป็นบุตรนายสอนและ นางขำ (ลูกครูเอม) โดยทั้ง ๕ คนประกอบด้วย ครูโต๊ะ ครูโพล้ง ครูฤทธิ์ ครูแพ และครูพลอย ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ ครูแพที่ได้ทำการชกนายเจียร์ พระตะบอง นักมวยแขกครัวเขมรถึงแก่ความตาย จนทำให้ทางราชการได้กำหนดให้มีการสวมนวมแทนการคาดเชือกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ครูมวยท่าเสาทั้ง ๕ แห่งตระกูลเลี้ยงประเสริฐ ยังคงมีการชกมวยตามจังหวัดต่าง ๆ ทางภาคเหนือและโคราช และยังได้ถ่ายทอดวิชามวยท่าเสาให้กับบรรดาลูกศิษย์และทำไร่ไถนาอยู่ที่ท่าเสา ต่อมาทั้งหมดได้ย้ายข้ามแม่น้ำไปอยู่ที่บ้านป่าขนุน ตำบลคุ้งตะเภา และทำการสอนมวยท่าเสาให้แก่ลูกศิษย์และลูกหลานต่อไป ครูโพล้งต่อมาได้สอนมวยและครอบครูให้แก่ครูฉลอง เลี้ยงประเสริฐ (ลูกครูฤทธิ์) และครูประสิทธิ์ เลี้ยงประเสริฐ ทั้ง ๒ มีเชิงมวยที่แพรวพราวและหนักหน่วง โดยครูฉลอง เลี้ยงประเสริฐมีความสามารถในเชิงเตะตามแบบฉบับของมวยท่าเสาอย่างแท้จริง สามารถเตะคู่ต่อสู้หลับคาเท้ามานับไม่ถ้วน ในขณะที่ชกมวยอยู่ในกรุงเทพฯ จนได้รับฉายาว่า “ตีนเทวดา” ครูฉลอง เลี้ยงประเสริฐ ได้ถึงแก่กรรมเมื่อปี ๒๕๔๙ สิริอายุได้ ๗๒ ปี

โดยก่อนที่ครูฉลอง เลี้ยงประเสริฐ จะเสียชีวิต ได้ครอบครูให้แก่ ดร.สมพร แสงชัย ดร.วินัย จำปาอ่อน และอดิศร ไกรว่อง และครูพลอย เลี้ยงประเสริฐ ได้ทำการถ่ายทอดและครอบครู ให้แก่ นายศรี ชัยมงคล นายประพันธ์ เลี้ยงประเสริฐ นายเต่า คำฮ่อ (เชียงใหม่) ครูประสิทธิ์ เลี้ยงประเสริฐ ฯลฯ

มวยพระยาพิชัยดาบหัก คือ มวยสายของพระยาพิชัยดาบหัก ที่ได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาการต่อสู้ป้องกันตัวและคาถาอาคมจากท่านพระครูพระธาตุเมืองพิชัย ครูเที่ยง บ้านแก่ง ครูมวยงิ้ว วัดท่าถนน ครูเมฆ บ้านท่าเสา ครูดาบเหลือ สวรรคโลก และครูมวยจีน สุโขทัยธานี โดยบูรณาศาสตร์วิชาที่ได้ศึกษาเข้าด้วยกันกลายเป็นมวยไทยตำรับ “พระยาพิชัยดาบหัก” พระยาพิชัยดาบหักได้ฝึกสอนลูกศิษย์ ทหาร และลูกหลาน โดยผูกไม้ต่าง ๆ เป็น แม่ไม้บน ๑-๑๒ และ แม่ไม้ล่าง ๑-๑๒ เพื่อง่ายแก่การจดจำ และมีการสืบทอดส่งต่อกันมาถึงสมัยรัตนโกสินทร์ จนมาถึงครูแสง ซึ่งครูแสงเป็นลูกหลวงจงและหลานปู่ของหลวงพิทักษ์ (เสือ) ผู้สืบสกุลของพระยาพิชัยดาบหัก และครูแสงถ่ายทอดให้กับครูซุนกวน ครูซุนกวนถ่ายทอดให้กับ ครูสงวน แสงชัย และครูสงวน แสงชัย ได้ถ่ายทอดวิชาให้กับ ครูสมพร แสงชัย ซึ่งเป็นเจ้าสำนักมวยท่าเสาพระยาพิชัยดาบหัก ในปัจจุบัน

เอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของมวยท่าเสา

ด้านเชิงมวย คือ การเตะที่สวยงามและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในระยะประชิดเป็นการ “เตะเฉียงนาคาสะบัดหาง” คือ เตะครึ่งแข้งครึ่งเข่าก่อนแล้วค่อยสะบัดแข้งเข้าก้านคอคู่ต่อสู้ โดยจะโยกตัวซ้ายขวาใน “ลักษณะตัวอ่อน” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์พิเศษของมวยท่าเสา จนได้รับฉายาว่า “มวยตีนลิง” หรือ “มวยตีนไว”

ด้านการต่อสู้ คือ มวยท่าเสาและมวยพระยาพิชัยดาบหัก มุ่งการรักษาชีวิตของตนเอง และเผด็จศึกฝ่ายตรงข้ามใขณะเดียวกัน โดยมวยท่าเสาจะใช้การหลบหลีกและตอบโต้อย่างทันควัน แต่มวยพระยาพิชัยดาบหักจะใช้การหลบหลีก-ปัด-ป้อง-ปิด ก่อนตอบโต้

ด้านการแต่งกาย คือ มวยท่าเสามักจะนิยมสวมกางเกงขาสั้นสีแดง ไม่สวมเสื้อ สวมใส่มงคลสีแดงที่ศีรษะโดยจะมีแผ่นยันต์สีแดงอยู่ด้านหน้ามงคลด้วย มีการพันหมัดแบบคาดเชือกครึ่งแขน มงคลและผ้าประเจียดจะทำด้วยด้ายดิบสีแดง และนิยมผูกผ้าประเจียดสีแดงที่แขนด้านซ้ายข้างเดียว

ด้านการร่ายรำไหว้ครู คือ มวยท่าเสาจะต้องไหว้บรมครู คือ พระอิศวร เพราะถือว่า พระอิศวรเป็นผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาการต่อสู้ โดยมวยท่าเสาจะนั่งยอง ๆ แล้วทำการไหว้โดยการวางมือข้างซ้ายลงก่อน จากนั้นตามด้วยมือขวาก่อนก้มศีรษะลงกราบ เพื่อเป็นการระลึกถึงบุญคุณของครูผู้สอนเมื่อวางมือซ้ายลง และครูในสายมวยก่อนหน้านั้นเมื่อวางมือขวาลง และครูอื่น ๆ ที่เคยสั่งสอนเรามาเมื่อขยับมือซ้ายขึ้นไปขนานมือขวา และจะต่อด้วยท่าส่องเมฆ และท่าไต่เมฆที่เป็นเอกลักษณ์พิเศษของสาย ท่าเสาโบราณในการรำไหว้ครูเพราะท่าส่องเมฆจะเป็นการทำนิมิตถึงครูเมฆและครูอื่นๆ ในสายมวย และท่าไต่เมฆก็เป็นการแสดงถึงความแข็งแกร่งและความว่องไวของมือ เป็นการอบอุ่นร่างกายอย่างรวดเร็วและตัดไม้ข่มนามคู่ต่อสู้ และเป็นการประกาศศักดิ์ศรีของมวยท่าเสาที่ได้สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบันนี้ เอกลักษณ์อาวุธที่โดดเด่น คือ การใช้หมัดครึ่งศอก การเตะเฉียงนาคาสะบัดหาง และการใช้ศอกเฉียง

ทักษะพื้นฐานและไม้มวย

พื้นฐานของมวยพระยาพิชัยดาบหักอยู่ที่ท่าย่างแปดทิศ ท่ามือสี่ทิศ และการใช้นวอาวุธ ๑๐๘ แนว รวมไปถึงพื้นไม้ในแนวต่าง ๆ เน้นความปลอดภัยของตัวนักมวยก่อนอื่นใด โดยอาศัยการหลบหลีก การปัด การปิด-ป้อง การจับ-หัก-ทุ่ม-ทับ การทุ่ม-ทับ-จับ-หัก และการเปิดและเข้าทำ มีทั้งไม้รุกและไม้รับอยู่ในตัว มวยพระยาพิชัยดาบหักมีทั้งหมด ๕๓๕ ไม้ด้วยกัน แบ่งเป็นไม้หมัด ๑๓๔ ไม้ ไม้ศอก 140 ไม้ ไม้เข่า ๖๒ ไม้ ไม้ถีบ ๕๙ ไม้ ไม้เตะ ๑๐๑ ไม้ และไม้หัว ๓๙ ไม้

“ที่มาของข้อมูล ดร.ประไพร จันทะบัณฑิต ครูมวยท่าเสาพระยาพิชัยดาบหักระดับมงคล 7”

187832_0187833_0ผังการสืบทอดสายมวยท่าเสา พระยาพิชัยดาบหัก

187834_0187835_0187837_0187838_0

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Integer adipiscing erat eget risus sollicitudin pellentesque et non erat. Maecenas nibh dolor, malesuada et bibendum a, sagittis accumsan ipsum. Pellentesque ultrices ultrices sapien, nec tincidunt nunc posuere ut. Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Nam scelerisque tristique dolor vitae tincidunt. Aenean quis massa uada mi elementum elementum. Nec sapien convallis vulputate rhoncus vel dui.
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Integer adipiscing erat eget risus sollicitudin pellentesque et non erat. Maecenas nibh dolor, malesuada et bibendum a, sagittis accumsan ipsum. Pellentesque ultrices ultrices sapien, nec tincidunt nunc posuere ut. Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Nam scelerisque tristique dolor vitae tincidunt. Aenean quis massa uada mi elementum elementum. Nec sapien convallis vulputate rhoncus vel dui.
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Integer adipiscing erat eget risus sollicitudin pellentesque et non erat. Maecenas nibh dolor, malesuada et bibendum a, sagittis accumsan ipsum. Pellentesque ultrices ultrices sapien, nec tincidunt nunc posuere ut. Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Nam scelerisque tristique dolor vitae tincidunt. Aenean quis massa uada mi elementum elementum. Nec sapien convallis vulputate rhoncus vel dui.
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Integer adipiscing erat eget risus sollicitudin pellentesque et non erat. Maecenas nibh dolor, malesuada et bibendum a, sagittis accumsan ipsum. Pellentesque ultrices ultrices sapien, nec tincidunt nunc posuere ut. Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Nam scelerisque tristique dolor vitae tincidunt. Aenean quis massa uada mi elementum elementum. Nec sapien convallis vulputate rhoncus vel dui.