แม่ไม้และลูกไม้มวยไทย

แม่ไม้และลูกไม้มวยไทย

แม่ไม้และลูกไม้มวยไทย เป็นทักษะพื้นฐานดั่งเดิมของมวยไทยที่บรรพบุรุษได้สร้างสรรค์ไว้  จากตำราภาพกระดาษใบข่อย 46 ภาพ สมัยรัชกาลที่ 3 กรุงรัตนโกสินทร์ โดยพระมหาปลัดเต็ง วัดชนะสงคราม ได้มอบให้หอสมุดแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2474  ซึ่งครูกิมเส็งหรือครูสุนทร ทวีสิทธิ์  ครูมวยสาย  พลศึกษา ทำการสอนมวยที่สามัคยาจารย์ ย่านวัดดอนยานนาวา ได้นำตำราภาพมวยเก่าแก่มาใช้ในการเรียนการสอน และเมื่อปีพ.ศ.2504 ท่านได้เสียชีวิตลง คณะลูกศิษย์ได้รวบรวมเรียบเรียงเป็นตําราแม่ไม้มวยไทย 15 ไม้ และลูกไม้มวยไทย 15 ไม้ และครูมวยสายพลศึกษาได้นำไปใช้ในการเรียนการสอนมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

Mae Mai and Luk Mai Muay Thai

Mae Mai and Luk Mai Muay Thai are the traditional and fundamental techniques of Muay Thai that were creatively developed and preserved by the ancestors of Thailand. Their origins can be traced back to a collection of 46 illustrated manuscripts on bai khoi (mulberry paper leaves) dating from the reign of King Rama III of the Rattanakosin period. These illustrations were compiled by Phra Maha Plad Teng of Wat Chana Songkhram, who later donated them to the National Library of Thailand in 1931 (B.E. 2474).

Later, Khru Kimsaeng, also known as Khru Sunthon Thawisith, a Muay Thai master under the Physical Education lineage, used these ancient illustrated manuscripts as instructional materials for teaching Muay Thai at Samakkayacharn School, located in the Wat Don Yannawa area. Following his death in 1961 (B.E. 2504), his disciples gathered and systematized his teachings into a formal textbook entitled “Mae Mai Muay Thai – 15 Techniques” and “Luk Mai Muay Thai – 15 Techniques.”

Since then, the Physical Education lineage of Muay Thai instructors has adopted and integrated these techniques into the Muay Thai teaching and learning curriculum, continuing to transmit and preserve them up to the present day. The detailed descriptions of these 30 fundamental techniques illustrate not only the martial aspects of Muay Thai but also its deep cultural, artistic, and philosophical dimensions.

แม่ไม้มวยไทย 15 ไม้

1.ท่าสลับฟันปลา (รับด้านนอก)

ฝ่ายรุก : เดินมวยเข้าหาชกด้วยหมัดซ้ายตรงไปยังที่ใบหน้าฝ่ายรับ

ฝ่ายรับ : ก้าวเท้าขวาเฉียงไปทางด้านซ้ายของฝ่ายรุก ใช้มือซ้ายปัดหมัดฝ่ายรุกที่ข้อมือ และมือขวากระแทกไปที่หัวไหล่ด้านนอกของฝ่ายรุก ซึ่งหากฝ่ายรุกชกหมัดขวาให้ฝ่ายรับปฏิบัติตรงกันข้าม

2.ท่าปักษาแหวกรัง (รับด้านใน)

ฝ่ายรุก : เดินมวยเข้าหาชกด้วยหมัดขวาตรงสู่ใบหน้า มือซ้ายตั้งมั่นพร้อมที่จะชกหมัด

ฝ่ายรับ : ก้าวเท้าขวา ทแยงเฉียงด้านขวาสืบเท้าเข้าวงในทิ้งน้ำหนักตัวลงบนเท้าขวาใช้แขนซ้ายปัดหมัดให้พ้นใบหน้า มือขวากระแทกไปที่หัวไหล่ด้านในของฝ่ายรุกทันที ซึ่งหากฝ่ายรุกชกหมัดซ้ายตรงให้ฝ่ายรับปฏิบัติตรงกันข้าม

3.ท่าชวาซัดหอก

ฝ่ายรุก : เดินมวยเข้าหาชกด้วยหมัดขวาตรงไปที่บริเวณหน้าของฝ่ายรับ มือขวาตั้งมั่น

ฝ่ายรับ : ก้าวเท้าซ้ายเฉียงออกวงนอกทิ้งน้ำหนักตัวลงบนเท้าซ้าย โดยเข้าหาคู่ต่อสู้ แขนขวายกขึ้นปัดหมัดฝ่ายรุกให้เบนออกพ้นตัว  แขนซ้ายเป็นศอกกระแทกเข้าชายโครงฝ่ายรุก ซึ่งหากฝ่ายรุกชกหมัดซ้ายตรงให้ฝ่ายรับปฏิบัติตรงกันข้าม

ลักษณะการใช้แม่ไม้ท่าชวาซัดหอก

4.ท่าอิเหนาแทงกริช

ฝ่ายรุก : เดินมวยเข้าหาชกด้วยหมัดขวาตรงไปที่บริเวณหน้าฝ่ายรับ มือซ้ายตั้งมั่น

ฝ่ายรับ : ก้าวเท้าขวาเข้าหาด้านหน้าของฝ่ายรุก  น้ำหนักลงบนเท้าขวา ยกแขนซ้ายขึ้นปัดหมัดให้พ้นตัว แขนขวางอศอกเพื่อส่งศอกกระแทกที่ชายโครงฝ่ายรุก ซึ่งหากฝ่ายรุกชกหมัดซ้ายตรงให้ฝ่ายรับปฏิบัติตรงกันข้าม

5.ท่ายอเขาพระสุเมรุ

ฝ่ายรุก : เดินมวยเข้าหาชกด้วยหมัดขวาตรงเข้าบริเวณหน้าฝ่ายรับ มือซ้ายตั้งมั่น

ฝ่ายรับ : ก้มศีรษะให้หมัดผ่านศีรษะ  พร้อมกับสืบเท้าซ้ายไปข้างหน้า ชกหมัดซ้ายเข้าสู่ปลายคางฝ่ายรุกทันที ซึ่งหากฝ่ายรุกชกหมัดซ้ายตรงให้ฝ่ายรับปฏิบัติตรงกันข้าม

6.ท่าตาเถรค้ำฟัก

ฝ่ายรุก : เดินมวยเข้าหาชกด้วยหมัดขวาตรงเข้าบริเวณหน้าฝ่ายรับ มือซ้ายตั้งมั่น

ฝ่ายรับ : สืบเท้าขวาไปข้างหน้าเข้าหาฝ่ายรุก  น้ำหนักตัวลงบนเท้าขวา พร้อมงอแขนซ้ายยกขึ้นตรงหน้า  ปัดหมัดของฝ่ายรุกขึ้นให้พ้นศีรษะ   มือขวาชกเข้าสู่ปลายคางของฝ่ายรุกทันที ซึ่งหากฝ่ายรุกชกหมัดซ้ายตรงให้ฝ่ายรับปฏิบัติตรงกันข้าม

7.ท่ามอญยันหลัก

ฝ่ายรุก : เดินมวยเข้าหาชกด้วยหมัดขวาตรงเข้าบริเวณหน้าฝ่ายรับ

ฝ่ายรับ : ยกแขนทั้งสองขึ้นป้องกันหน้า พร้อมกับยกเท้าขวาถีบเข้าที่หน้าอก หรือท้องฝ่ายรุก ซึ่งหากฝ่ายรุกชกหมัดซ้ายตรงให้ฝ่ายรับปฏิบัติตรงกันข้าม

8.ท่าปักลูกทอย

ฝ่ายรุก : เดินมวยเข้าหาเตะด้วยเท้าซ้ายบริเวณศีรษะของฝ่ายรับ มือทั้งสองตั้งมั่น

ฝ่ายรับ : สืบเท้าเข้าหาครึ่งก้าวพร้อมกับหมุนตัวเอาเท้าขวาเป็นแกน หันหน้าเข้าหาทิศทางที่เท้าเตะมา  ยกศอกขวาตั้งขึ้นระดับหน้าแข้ง มือซ้ายตั้งกราดปิดระดับต้นคอ เพื่อป้องกันพลาดถูกใบหน้า ซึ่งหากฝ่ายรุกเตะด้วยเท้าขวาให้ฝ่ายรับปฏิบัติตรงกันข้าม

9.ท่าจระเข้ฟาดหาง

ฝ่ายรุก : เดินมวยเข้าหาชกด้วยหมัดขวาตรงสุดแรงจนตัวเสียหลักไปข้างหน้า

ฝ่ายรับ : ก้าวเท้าซ้ายออกด้านวงนอก  เอี้ยวตัวให้หมัดผ่านทางไหล่ขวา ระยะ 1 คืบ แล้วใช้เท้าซ้ายเป็นหลักหมุนให้ส้นเท้าขวากระแทกที่ศีรษะฝ่ายรุก ซึ่งหากฝ่ายรุกชกหมัดซ้ายตรงให้ฝ่ายรับปฏิบัติตรงกันข้าม

10.ท่าหักงวงไอยรา

ฝ่ายรุก : เดินมวยเข้าหาพร้อมยกเท้าซ้ายเข้าเตะกราดบริเวณชายโครง มือทั้งสองตั้งมั่น

ฝ่ายรับ : ก้าวเท้าซ้ายเข้าหาฝ่ายรุกในระยะชิดตัวอย่างรวดเร็ว หันหน้าเข้าหาทิศทาง ที่ฝ่ายรุกเตะมากระแทกศอกขวาสู่บริเวณโคนขาฝ่ายรุก พร้อมแขนซ้ายโอบจับตรงบริเวณน่อง ยกขาให้สูงเพื่อให้เสียหลัก ป้องกันฝ่ายรุกใช้ศอกซ้ายตีที่ต้นขา ซึ่งหากฝ่ายรุกเตะเท้าขวาให้ฝ่ายรับปฏิบัติตรงกันข้าม

11.ท่านาคาบิดหาง

ฝ่ายรุก : เดินมวยเข้าหาพร้อมเตะด้วยเท้าขวา  มือทั้งสองตั้งมั่น

ฝ่ายรับ : รีบพลิกตัวหันหน้าไปทางเท้าที่กำลังเตะมาน้ำหนักตัวทิ้งบนเท้าซ้าย เท้าขวาอยู่ในหลักยืนมวยแบบสิงหยาตรา มือขวาตั้งฝ่ามือ  ปะทะปลายเท้า มือซ้ายแบหงาย ตะปบส้นเท้า แล้วมือที่จับปลายเท้าพลิกบิดออกด้านนอก  มือซ้ายจับส้นเท้าดึงเข้าหาตัวพร้อมกับใช้เข่ากระแทกไปที่น่อง ซึ่งหากฝ่ายรุกเตะด้วยเท้าซ้ายให้ฝ่ายรับปฏิบัติตรงกันข้าม

12.ท่าวิรุฬหกกลับ

ฝ่ายรุก : เดินมวยเข้าหาพร้อมทั้งยกเท้าขวาเตะตรงบริเวณชายโครง

ฝ่ายรับ : พลิกตัวหันหน้าสู่ทิศทางที่เท้าเตะมา ใช้เท้าซ้ายเป็นหลักยืนให้มั่นยกเท้าขวาถีบกระแทกที่ต้นขาให้สะท้อนกลับไป  มือทั้งสองตั้งให้มั่นเพื่อป้องกันพลาดถูกชายโครง ซึ่งหากฝ่ายรุกเตะด้วยเท้าซ้ายให้ฝ่ายรับปฏิบัติตรงกันข้าม

13.ท่าดับชวาลา

ฝ่ายรุก : เดินมวยเข้าหาชกหมัดขวาตรงไปที่ใบหน้าฝ่ายรับ

ฝ่ายรับ : ก้าวเท้าซ้ายออกด้านนอก  ทิ้งน้ำหนักตัวบนเท้าซ้ายใช้มือซ้ายกดแขนขวาของ ฝ่ายรุกให้เบนและต่ำ   ชกด้วยหมัดขวาตรงไปที่ใบหน้า  ซึ่งหากฝ่ายรุกชกหมัดซ้ายตรงให้ฝ่ายรับปฏิบัติตรงกันข้าม

14.ท่าขุนยักษ์จับลิง

ฝ่ายรุก : เดินมวยเข้าหาชกหมัดซ้ายตรงเข้าบริเวณหน้าฝ่ายรับ พร้อมกับเตะเท้าขวาตรงบริเวณชายโครง ตามด้วยศอกขวาอย่างรวดเร็ว

ฝ่ายรับ : ก้าวเท้าขวาออกด้านนอก  มือขวายกขึ้นปัดหมัด  ก้าวเท้าขวายกแขนทั้งสองข้างปัดการเตะที่แข้งขวาของฝ่ายรุก  พร้อมยกแขนซ้ายป้องกันศอกขวาของฝ่ายรุก  แม่ไม้นี้เป็นการหลบหมัด  หลบเตะ  หลบศอกในเวลาเดียวกัน ซึ่งหากฝ่ายรุกชกหมัดขวาตรง พร้อมกับเตะเท้าซ้าย ตามด้วยศอกซ้าย ให้ฝ่ายรับปฏิบัติตรงกันข้าม

15.ท่าหักคอเอราวัณ

ฝ่ายรุก : เดินมวยเข้าหาชกด้วยหมัดขวาตรงบริเวณหน้าของฝ่ายรับ

ฝ่ายรับ : ก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้า ใช้หมัดทั้งสองจับที่ต้นคอฝ่ายรุก กดศีรษะแล้วกระแทกเข่าขวาไปที่หน้าของฝ่ายรุก ซึ่งหากฝ่ายรุกชกหมัดซ้ายตรงให้ฝ่ายรับปฏิบัติตรงกันข้าม

ลักษณะการใช้แม่ไม้ท่าสลับฟันปลา

ลักษณะการใช้แม่ไม้ท่าปักษาแหวกรัง

ลักษณะการใช้แม่ไม้ท่าชวาซัดหอก

ลักษณะการใช้แม่ไม้ท่าอิเหนาแทงกริช

ลักษณะการใช้แม่ไม้ท่ายอเขาพระสุเมร

ลักษณะการใช้แม่ไม้ท่าตาเถรค้ำฟัก

ลักษณะการใช้แม่ไม้ท่ามอญยันหลัก

ลักษณะการใช้แม่ไม้ท่าปักลูกทอย

ลักษณะการใช้แม่ไม้ท่าจระเข้ฟาดหาง

ลักษณะการใช้แม่ไม้ท่าหักงวงไอยรา

ลักษณะการใช้แม่ไม้ท่านาคาบิดหาง

ลักษณะการใช้แม่ไม้ท่าวิรุฬหกกลับ

ลักษณะการใช้แม่ไม้ท่าดับชวาลา

ลักษณะการใช้แม่ไม้ท่าขุนยักษ์จับลิง

ลักษณะการใช้แม่ไม้ท่าหักคอเอราวัณ

1.Salab Fhan Pla

Attacker: Advances toward the opponent and strikes with a straight left punch aimed at the defender’s face.

Defender: Steps the right foot diagonally to the left side of the attacker, uses the left hand to deflect the attacker’s punch at the wrist, and strikes the attacker’s outer shoulder with the right hand. If the attacker throws a right-hand punch, the defender performs the opposite actions accordingly.

2.Paksa Waek Rang

Attacker: Advances with a straight right punch to the defender’s face; the left hand is held ready.
Defender: Steps the right foot diagonally to the right and closes in, placing weight on the right foot. Uses the left arm to deflect the punch away from the face, while the right hand strikes the attacker’s inner shoulder. If the attacker throws a straight left punch, the defender performs the opposite action.

3.Chawa Sad Hok

Attacker: Advances with a straight right punch to the defender’s face; the right hand is held ready.
Defender: Steps the left foot diagonally outward, placing weight on it while approaching the attacker. The right arm deflects the incoming punch outward, and the left elbow strikes the attacker’s rib. If the attacker throws a straight left punch, the defender does the opposite.

4.I-nao Tang Krich

Attacker: Advances with a straight right punch to the defender’s face; the left hand is held ready.
Defender: Steps the right foot toward the attacker, places weight on it, raises the left arm to deflect the punch, and strikes the attacker’s rib with the right elbow. If the attacker throws a straight left punch, the defender does the opposite.

5.Yo Khao Phra Sumeru

Attacker: Advances with a straight right punch to the defender’s face; the left hand is held ready.
Defender: Bends the head to let the punch pass over, steps the left foot forward, and immediately strikes the attacker’s chin with a left punch. If the attacker throws a straight left punch, the defender does the opposite.

6.Ta Thoen Kham Fak

Attacker: Advances with a straight right punch to the defender’s face; the left hand is held ready.
Defender: Steps the right foot forward toward the attacker, placing weight on it. Raises the left arm in front to deflect the punch overhead, and strikes the attacker’s chin with the right hand. If the attacker throws a straight left punch, the defender does the opposite.

7.Mon Yan Lak

Attacker: Advances with a straight right punch to the defender’s face.
Defender: Raises both arms to protect the face while simultaneously lifting the right foot to kick the attacker’s chest or abdomen. If the attacker throws a straight left punch, the defender does the opposite.

8.Pak Luk Toi

Attacker: Advances with a left kick aimed at the defender’s head; both hands are held ready.
Defender: Steps forward half a step, rotates the body using the right foot as an axis, faces the direction of the incoming kick, raises the right elbow to the level of the shin, and positions the left hand to protect the neck. If the attacker kicks with the right foot, the defender performs the opposite action.

9.Chorakhe Fad Hang

Attacker: Advances with a full-force right punch, risking overextension.
Defender: Steps the left foot outward, rotates the body to let the punch pass over the right shoulder (about one span), pivots on the left foot, and strikes the attacker’s head with the right heel. If the attacker throws a straight left punch, the defender does the opposite.

10.Hak Nguai Ai-Ya-Ra

Attacker: Advances with a left leg sweep kick to the attacker’s ribs; both hands are ready.
Defender: Steps the left foot quickly toward the attacker, turns toward the direction of the incoming kick, strikes the attacker’s thigh with the right elbow, grips the attacker’s calf with the left hand, and lifts the leg to destabilize the attacker, preventing a left elbow strike to the thigh. If the attacker kicks with the right foot, the defender does the opposite.

11.Na Ka Bid Hang

Attacker: Advances with a right foot kick; both hands are held ready.
Defender: Quickly turns toward the kicking foot, places weight on the left foot, keeps the right foot in a strong stance. The right hand strikes the tip of the attacker’s foot, the left hand grabs the heel, twists it outward, pulls it in, and uses the knee to strike the attacker’s shin. If the attacker kicks with the left foot, the defender does the opposite.

12.Wirun Hok Klap

Attacker: Advances with a right kick to the defender’s ribs.
Defender: Turns toward the direction of the kick, stabilizes on the left foot, and pushes the right foot into the attacker’s thigh to reflect the force. Both hands are held ready to protect against accidental strikes to the ribs. If the attacker kicks with the left foot, the defender does the opposite.

13.Dab Chawala

Attacker: Advances with a straight right punch to the defender’s face.
Defender: Steps the left foot outward, places weight on it, presses the attacker’s right arm downward and low, then strikes the face with a straight right punch. If the attacker punches with the left hand, the defender does the opposite.

14.Khun Yak Chap Ling

Attacker: Advances with a straight left punch, right kick to the ribs, and a quick right elbow strike.
Defender: Steps the right foot outward, raises the right hand to deflect the punch, steps the right foot, lifts both arms to deflect the kick, and raises the left arm to block the right elbow. This technique simultaneously defends against punch, kick, and elbow. If the attacker punches with the right hand, left kick, and left elbow, the defender does the opposite.

15.Hak Khor Erawan

Attacker: Advances with a straight right punch to the defender’s face.
Defender: Steps the left foot forward, grabs the attacker’s neck with both hands, presses the head down, and strikes the attacker’s face with the right knee. If the attacker punches with the left hand, the defender does the opposite.

ลูกไม้มวยไทย

1.ท่า เอราวัณเสยงา

ฝ่ายรุก :  เดินมวยเข้าหาชกหมัดซ้ายตรง ไปยังบริเวณหน้าฝ่ายรับ

ฝ่ายรับ : เอี้ยวตัวหลบหมัดซ้ายไปทางซ้าย ใช้หมัดขวาปัดหมัดซ้ายของฝ่ายรุก พร้อมชกหมัดซ้ายเข้าที่คางของฝ่ายรุกอย่างรวดเร็ว ซึ่งหากฝ่ายรุกชกหมัดขวาตรงให้ฝ่ายรับปฏิบัติตรงกันข้าม

2.ท่าบาทาลูบพักตร์

ฝ่ายรุก : เดินมวยเข้าหาชกด้วยหมัดขวาเข้าบริเวณหน้าฝ่ายรับ

ฝ่ายรับ : รีบใช้เท้าขวาถีบไปที่หน้าของฝ่ายรุกอย่างรวดเร็ว ลูกไม้นี้ชิงจังหวะทำก่อน ซึ่งหากฝ่ายรุกชกหมัดซ้ายตรงให้ฝ่ายรับปฏิบัติตรงกันข้าม

3.ท่าขุนยักษ์พานาง

ฝ่ายรุก : เดินมวยเข้าหาชกด้วยหมัดขวาตรง เข้าบริเวณหน้าฝ่ายรับ

ฝ่ายรับ : ก้าวเท้าเฉียงออกวงนอก หลบหมัดที่ชกมา แล้วก้าวเท้าขวาประชิดตัวมือขวาโอบลำตัวฝ่ายรุกจับทุ่มด้วยสะโพก ซึ่งหากฝ่ายรุกชกหมัดซ้ายตรงให้ฝ่ายรับปฏิบัติตรงกันข้าม

4.ท่าพระรามน้าวศร

ฝ่ายรุก : เดินมวยเข้าหาประชิดตัว ยกศอกคู่หรือศอกเดี่ยวขึ้นกระแทกลงหมายแสกหน้า หรือกระหม่อมฝ่ายรับ

ฝ่ายรับ : งอเข่าก้มหัวลงเล็กน้อยเพื่อชะลอแรงกระแทก ยกแขนขวาขึ้นปกหน้าปะทะศอกที่กระแทกลงมาพร้อมชกสวนออกไปด้วยหมัดขวา

5.ท่าไกรสรข้ามห้วย

ฝ่ายรุก : เดินมวยเข้าหาเตะด้วยเท้าขวาสู่ปลายคางฝ่ายรับ มือทั้งสองตั้งมั่น

ฝ่ายรับ : พลิกตัวหันหลังจากเท้าที่เตะมา พร้อมกับสอดเท้าซ้ายถีบเข้าที่หน้าตักของเท้าที่ยืนเป็นหลักของฝ่ายรุกทันที ซึ่งหากฝ่ายรุกชกเตะด้วยเท้าซ้ายให้ฝ่ายรับปฏิบัติตรงกันข้าม

6.ท่ากวางเหลียวหลัง

ฝ่ายรุก : เดินมวยเข้าหามือทั้งสองตั้งมั่น

ฝ่ายรับ : พุ่งตัวเข้าถีบเท้าขวาในลักษณะถีบข้างจนฝ่ายรุกเอียงเสียหลัก แล้วลดขาที่ถีบลงไปข้างหน้ายืนเป็นหลักพลิกตัวตามเตะด้วยส้นเท้าที่ยอดอก หรือปลายคาง

7.ท่าหิรัญม้วนแผ่นดิน

ฝ่ายรุก :  เดินมวยเข้าหาเตะเหวี่ยงขาขวาหมายซอกคอฝ่ายรับ มือทั้งสองตั้งมั่น

ฝ่ายรับ : เท้าขวาประชิดเข้าหาเท้าที่เตะมา รีบยกแขนขวาท่อนล่างขึ้นรับเตะของฝ่ายรุก พร้อมกลับหลังหันใช้ศอกซ้ายตีกลับหลังบริเวณใบหน้าของฝ่ายรุกทันที ซึ่งหากฝ่ายรุกเตะด้วยเท้าซ้ายให้ฝ่ายรับปฏิบัติตรงกันข้าม

8.ท่านาคมุดบาดาล

ฝ่ายรุก : เดินมวยเข้าหาเตะด้วยขวาหมายซอกคอฝ่ายรับ มือทั้งสองตั้งมั่น

ฝ่ายรับ : ก้มตัวหลบลอดใต้เท้าขวาของฝ่ายรุกที่เตะมา แล้วรีบสอดเท้าขวาถีบขาพับซ้ายของฝ่ายรุกทันที ซึ่งหากฝ่ายรุกเตะด้วยเท้าซ้ายให้ฝ่ายรับปฏิบัติตรงกันข้าม

9.ท่า หนุมานถวายแหวน

ฝ่ายรุก : เดินมวยเข้าหาชกด้วยหมัดขวาตรงเข้าที่หน้าฝ่ายรับ

ฝ่ายรับ : ก้าวเท้าขวามาด้านข้าง พร้อมกับใช้หมัดซ้ายปัดหมัดขวาของฝ่ายรุก ย่อตัวลงหลบหมัดตรงฝ่ายรุกสวนกลับด้วยหมัดทั้งสอง เสยเข้าที่คางของฝ่ายรุก ซึ่งหากฝ่ายรุกชกหมัดซ้ายตรงให้ฝ่ายรับปฏิบัติตรงกันข้าม

10.ท่า ญวณทอดแห

ฝ่ายรุก : เดินมวยเข้าหาถีบด้วยเท้าขวาไปที่หน้าของฝ่ายรับมือทั้งสองตั้งมั่น

ฝ่ายรับ : ก้าวเท้าขวาทะแยงเฉียงออกวงนอก ใช้แขนขวาปัดขาเบนแรงถีบ แล้วใช้เท้าขวาเป็นหลักพลิกตัวเตะสวนขึ้นด้วยเท้าซ้ายเข้าที่พับในของฝ่ายรุกทันที

11.ท่าทะแยค้ำเสา

ฝ่ายรุก : เดินมวยเข้าหาเตะด้วยเท้าขวาสู่ซอกคอฝ่ายรับ มือทั้งสองตั้งมั่น

ฝ่ายรับ : ก้าวขาเฉียงไปทางขวาเล็กน้อย ตั้งแขนซ้ายกันเท้าที่เตะมา ย่อตัวลงพลิกตัวเล็กน้อย ถีบด้วยเท้าซ้ายไปที่ขาซ้ายที่ยืนเป็นหลักของฝ่ายรุกให้หงายหลังล้มลง

12.ท่าหงส์ปีกหัก

ฝ่ายรุก : เดินมวยเข้าหาชกด้วยหมัดขวาตรงสู่ใบหน้าฝ่ายรับ มือซ้ายตั้งมั่น

ฝ่ายรับ : ก้าวเท้าซ้ายเข้าประชิดตัวใช้แขนซ้ายปัดหมัดให้เบนออก กระแทกศอกขวาเข้าที่หัวไหล่ขวาของคู่ต่อสู้ ซึ่งหากฝ่ายรุกชกหมัดซ้ายตรงให้ฝ่ายรับปฏิบัติตรงกันข้าม

13.ท่าสักพวงมาลัย

ฝ่ายรุก : เดินมวยเข้าหาชกด้วยหมัดขวาตรงไปยังใบหน้าฝ่ายรับ มือซ้ายตั้งมั่น

ฝ่ายรับ : ก้าวเท้าขวาประชิดตัวใช้แขนซ้ายปัดหมัดให้เบนออก กระแทกศอกขวาเข้าที่ยอดอกของคู่ต่อสู้ ซึ่งหากฝ่ายรุกชกหมัดซ้ายตรงให้ฝ่ายรับปฏิบัติตรงกันข้าม

14.ท่า เถรกวาดลาน

ฝ่ายรุก :  เดินมวยเข้าหาเตะขวาสูงหรือยืนในลักษณะยืนเท้าคู่

ฝ่ายรับ : เดินมวยเข้าหาได้ระยะที่เตะกวาดได้พร้อมกับก้มตัวลง ให้เท้าของฝ่ายรุกเตะผ่านศีรษะไป แล้วเตะกวาดไปที่เท้าซ้ายที่ยืนอยู่ของฝ่ายรุก อย่างสุดแรง ถ้ายืนจดมวยให้เตะกวาด  ขาที่อยู่ข้างหน้า ซึ่งหากฝ่ายรุกเตะซ้ายให้ฝ่ายรับปฏิบัติตรงกันข้าม

15.ท่าฝานลูกบวบ

ฝ่ายรุก : เดินมวยเข้าหาชกด้วยหมัดขวาตรงไปที่ใบหน้าฝ่ายรับ มือซ้ายตั้งมั่น

ฝ่ายรับ : ก้าวเท้าขวาทแยงเข้าวงใน ใช้แขนซ้ายปัดหมัดให้เบนออก พร้อมกับศอกขวาเสยเข้าที่ปลายคางฝ่ายรุกทันที ซึ่งหากฝ่ายรุกชกหมัดซ้ายตรงให้ฝ่ายรับปฏิบัติตรงกันข้าม

แสดงลักษณะการใช้ลูกไม้ท่าเอราวัณเสยงา

ลักษณะการใช้ลูกไม้ท่าบาทาลูบพักตร์

ลักษณะการใช้ลูกไม้ท่าขุนยักษ์พานาง

ลักษณะการใช้ลูกไม้ท่าพระรามน้าวศร

ลักษณะการใช้ลูกไม้ท่าไกรสรข้ามห้วย

ลักษณะการใช้ลูกไม้ท่ากวางเหลียวหลัง

ลักษณะการใช้ลูกไม้ท่าหิรัญม้วนแผ่นดิน

แสดงลักษณะการใช้ลูกไม้ท่านาคมุดบาดาล

แสดงลักษณะการใช้ลูกไม้ท่าหนุมานถวายแหวาน

แสดงลักษณะการใช้ลูกไม้ท่าญวณทอดแห

แสดงลักษณะการใช้ลูกไม้ท่าทะแยค้ำเสา

แสดงลักษณะการใช้ลูกไม้ท่าหงส์ปีกหัก

ลักษณะการใช้ลูกไม้ท่าสักพวงมาลัย

ลักษณะการใช้ลูกไม้ท่าเถรกวาดลาน

แสดงลักษณะการใช้ลูกไม้ท่าฝานลูกบวบ

1.Erawan Soei Nga

Attacker: Advances with a straight left punch to the defender’s face.
Defender: Twists the body to the left to evade the left punch, uses the right hand to deflect the punch, and quickly strikes the attacker’s chin with the left punch. If the attacker throws a straight right punch, the defender performs the opposite.

2.Bhatala Lub Phak

Attacker: Advances with a straight right punch to the defender’s face.
Defender: Quickly executes a right-foot thrust toward the attacker’s face, taking initiative to strike before the attacker. If the attacker throws a straight left punch, the defender does the opposite.

3.Khun Yak Phan Nang

Attacker: Advances with a straight right punch to the defender’s face.
Defender: Steps diagonally outward to evade the punch, then steps the right foot close to the attacker, wraps the right arm around the attacker’s body, and performs a hip throw. If the attacker punches with the left hand, the defender does the opposite.

4.Phra Ram Nao Son

Attacker: Closes in with single or double elbow strikes toward the defender’s forehead or crown.
Defender: Slightly bends the knees and lowers the head to reduce the impact, raises the right arm to block the incoming elbow, and counters with a right punch.

5.Kraisorn Kham Huai

Attacker: Advances with a right kick aimed at the defender’s chin; both hands are held ready.
Defender: Turns the back to the incoming kick and uses the left foot to thrust against the attacker’s supporting leg. If the attacker kicks with the left foot, the defender does the opposite.

6.Kwang Liao Lang

Attacker: Advances with both hands ready.
Defender: Performs a side kick with the right foot, causing the attacker to lose balance, then steps forward and uses the heel to strike the attacker’s sternum or chin.

7.Hiran Muan Phandin

Attacker: Advances with a right leg roundhouse kick toward the defender’s neck; both hands held ready.
Defender: Steps the right foot close to the attacking foot, raises the lower right arm to block, spins backward, and strikes the attacker’s face with the left elbow. If the attacker kicks with the left foot, the defender does the opposite.

8.Na Komud Badan

Attacker: Advances with a right leg kick aimed at the defender’s neck; both hands ready.
Defender: Bends down to slip under the attacker’s right leg, then quickly inserts the right foot to kick the attacker’s bent left leg. If the attacker kicks with the left foot, the defender does the opposite.

9.Hanuman Thawai Waen

Attacker: Advances with a straight right punch to the defender’s face.
Defender: Steps the right foot to the side, uses the left hand to deflect the attacker’s punch, crouches to evade, and counters with both fists striking the attacker’s chin. If the attacker punches with the left hand, the defender does the opposite.

10.Yuan Thot Ha

Attacker: Advances with a right kick toward the defender’s face; both hands ready.
Defender: Steps the right foot diagonally outward, uses the right arm to deflect the incoming leg, pivots on the right foot, and counters with a left-foot kick to the inner leg of the attacker.

11.Tha Taya Kham Sao

Attacker: Advances with a right kick toward the defender’s neck; both hands ready.
Defender: Steps slightly diagonally to the right, blocks the incoming kick with the left arm, crouches, and sweeps the left foot against the attacker’s left supporting leg, causing a backward fall.

12.Hong Peek Hak

Attacker: Advances with a straight right punch to the defender’s face; left hand held ready.
Defender: Steps the left foot close to the body, uses the left arm to deflect the punch, and strikes the attacker’s right shoulder with the right elbow. If the attacker punches with the left hand, the defender does the opposite.

13.Sak Phuang Malai

Attacker: Advances with a straight right punch to the defender’s face; left hand held ready.
Defender: Steps the right foot close, uses the left arm to deflect the punch, and strikes the attacker’s sternum with the right elbow. If the attacker punches with the left hand, the defender does the opposite.

14.Ther Kwat Lan

Attacker: Advances with a high right kick or stands in a double-foot stance.
Defender: Approaches to reach the kicking range, bends down to let the kick pass overhead, and performs a sweeping kick against the attacker’s front or supporting leg. If the attacker kicks with the left foot, the defender does the opposite.

15.Fhan Luk Buab

Attacker: Advances with a straight right punch to the defender’s face; left hand held ready.
Defender: Steps the right foot diagonally inward, uses the left arm to deflect the punch, and strikes upward with the right elbow to the attacker’s chin. If the attacker punches with the left hand, the defender does the opposite.