ความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพการให้บริการกับการตัดสินใจเข้ามาเรียนมวยไทยของลูกค้าชาวต่างชาติ ในค่ายมวยไทยในกรุงเทพมหานคร

ความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพการให้บริการกับการตัดสินใจเข้ามาเรียนมวยไทยของลูกค้าชาวต่างชาติ ในค่ายมวยไทยในกรุงเทพมหานคร

Relationship Between Service Quality and Decision Making of Foreign Customers to Study Muay Thai in Muay Thai Camps in Bangkok

สุรเชษฐ์ เดชะพันธ์1, ศุภศักดิ์ เงาประเสริฐวงศ์2

Surachet Dechapant1, Supasak Ngaoprasertwong2

บทคัดย่อ

                ปัจจุบันค่ายมวยมีวิวัฒนาการที่เปลี่ยนไปจากอดีตมาก จนกลายเป็นสินค้าวัฒนธรรมที่ผู้เรียนชาวต่างชาติสนใจเข้ามาเรียนมวยไทย เพราะเหตุว่ามวยไทยได้รับความนิยมมากในระดับนานาชาติ การตัดสินใจเข้ามาเรียนมวยไทยของลูกค้าชาวต่างชาติ ธุรกิจมวยไทยต้องมีบริหารจัดการคุณภาพด้านใดเพื่อได้เปรียบการแข่งขัน การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาศึกษาคุณภาพการให้บริการ 2) ศึกษาการตัดสินใจเข้ามาเรียนมวยไทยของลูกค้าชาวต่างชาติ และ 3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าวคุณภาพการให้บริการกับการตัดสินใจเข้ามาเรียนมวยไทยของกค้าชาวต่างชาติ ในค่ายมวยไทยกรุงเทพมหานคร ผลการวิจัยพบว่า 1) คุณภาพการให้บริการที่ลูกค้าชาวต่างชาติได้รับจากค่ายมวยไทยกรุงเทพมหานคร ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยเฉพาะด้านการให้ความมั่นใจ รองลงมาคือ ความเป็นรูปธรรมของบริการ และด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ด้านการตอบสนองความต้องการ 2) ลูกค้าชาวต่างชาติมีตัดสินใจเข้ามาเรียนมวยไทย เพราะต้องการมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง รองลงมา คือ ต้องการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์3) คุณภาพในการให้บริการด้านการตอบสนองความต้องการมีความสัมพันธ์ในเชิงบวกและมีความสัมพันธ์ระดับสูงการตัดสินใจเข้ามาเรียนมวยไทยของลูกค้าชาวต่างชาติ ผลการวิจัยครั้งนี้ สามารถช่วยให้ค่ายมวยไทยนำข้อมูลที่ได้ค้นพบไปใช้ในการปรับปรุงการสร้างกลยุทธ์ตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าตรงตามความปราถนา จะยิ่งทำให้ลูกค้าชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการค่ายมวยไทย และสามารถสร้างความได้เปรียบในเชิงการแข่งขันได้

คำสำคัญ:  คุณภาพการให้บริการ, การตัดสินใจ, มวยไทย

Abstract

                Muay Thai gyms have undergone significant transformations, evolving into cultural products that attract foreign learners. The global popularity of Muay Thai has fueled this trend. This study aimed to
1) examine the service quality provided by Muay Thai gyms in Bangkok, 2) investigate the decision-making process of foreign learners, and 3) explore the relationship between service quality and foreign learners' decisions. The findings revealed that: 1) The overall service quality provided by Muay Thai gyms in Bangkok was perceived as high, especially in terms of assurance. Tangibility was the second highest-rated dimension, while responsiveness was the lowest. 2) Foreign learners primarily chose to learn Muay Thai for health benefits, followed by the desire to utilize their leisure time. 3) There was a strong positive correlation between responsiveness and foreign learners' decisions to enroll in Muay Thai classes. These findings suggest that Muay Thai gyms can enhance their competitiveness by focusing on improving service quality, particularly responsiveness. By tailoring their services to meet the specific needs of foreign learners, gyms can attract more international clients and foster long-term relationships.

Keywords: service quality, decision-making, Muay Thai

E-mail address: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

คำนำ

             มวยไทยเป็นศิลปะ เป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษ มีประวัติศาสตร์สืบสานมาอย่างต่อเนื่องยาวนานนับร้อยปี มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์สร้างชื่อเสียงให้ประเทศมาอย่างนับไม่ถ้วนผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยการเปลี่ยนแปลงของสังคมและพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ ทำให้มวยไทยเปลี่ยนสถานะไปจากมวยอาชีพ ธุรกิจสีเทา กลายมาเป็นเรื่องของธุรกิจกีฬาเพื่อสุขภาพ เพื่อการออกกำลังกาย จากกีฬาของผู้ชายที่ดูดิบเถื่อนกลายมาเป็นกีฬาเพื่อ
การออกกำลังกายของคนทุกเพศทุกวัย กีฬามวยไทยยังเป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ และมีส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ พัฒนาการของนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ด้านการกีฬา เป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้วงการกีฬาทั้งภายในและต่างประเทศ มีการปรับตัวที่มุ่งเน้นกีฬาเชิงเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น มีการแข่งขันทั้งในมิติของผลการแข่งขันและมิติที่เกิดขึ้นจากธุรกิจกีฬาและธุรกิจต่อเนื่อง (ชาญชัย ยมดิษฐ์, 2553)

            ปัจจุบันค่ายมวยมีวิวัฒนาการที่เปลี่ยนไปจากอดีตมาก ทั้งความนิยมที่ได้รับจากกระแสการสร้างธุรกิจกีฬาเพื่อความบันเทิง (Sport entertainment) ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2551 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้กีฬามวยไทยได้รับความนิยมสูงขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้จำนวนค่ายมวยมีมากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการการบริหารค่ายมวย และงบประมาณในการลงทุนเปลี่ยนไปตามขนาดของธุรกิจและความต้องการของตลาดผู้บริโภคทางการกีฬา ทั้งมียอดการจองเรียนมวยไทยผ่านหน้าเว็บไซด์ โซเชียลมีเดีย และการบอกต่อแบบปากต่อปาก เพราะการมาเรียนมวยไทยในปัจจุบันมีความพร้อมและครบวงจรมากขึ้น มีการคำนวณค่าเรียนให้ครอบคลุมไปกับค่าที่พักและอาหาร ตลอดจนสามารถระบุช่วงเวลาที่เรียนให้เหมาะสมกับการจองตั๋วเดินทาง ทั้งผู้เรียนแบบเดี่ยวแบบกลุ่มเล็กและกลุ่มใหญ่ ซึ่งการส่งเสริมกีฬาและประชาสัมพันธ์ (sport promotion and public relation) ซึ่งเป็นการถ่ายทอดในเชิงวัฒนธรรมผ่านสื่อกีฬา (sport media) ส่งผลให้ชาวต่างชาติรับรู้ศิลปะแม่ไม้มวยไทย และขนบธรรมเนียมไทย จากการสำรวจของกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาพบว่า ในประเทศไทยมีค่ายมวยไทยที่รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้องจำนวนทั้งสิ้น 5,100 ค่าย จากความนิยมในการเรียนมวยไทยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทำให้ผู้ประกอบการหันมาทำธุรกิจค่ายมวยไทยเพิ่มมากขึ้นจากการสำรวจ พบว่า ค่ายมวยไทยกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพมหานครหรือเมืองหลวงของประเทศไทยมากกว่า 912 ค่าย

            มวยไทยจึงกลายเป็นสินค้าวัฒนธรรมที่ส่งออกไปสู่ต่างประเทศ โดยผู้เรียนสามารถจ่ายเงินเพียงเล็กน้อยก็ได้เรียนมวยไทยตามที่ตั้งใจ เพราะเหตุว่ามวยไทยได้รับความนิยมมากในระดับนานาชาติ แสดงให้เห็นได้จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ มีหลักฐานอ้างอิงในพิพิธภัณฑ์และสถาบันวิชาการรองรับ (Vail, 2014) ในการดำเนินธุรกิจนั้นการบริการจะเข้ามามีบทบาททุกขั้นตอนของการติดต่อระหส่งผู้ใช้บริการและผู้ขาย เริ่มตั้งแต่การให้ข้อมูลข่าวสารหรือคำแนะนำต่าง ๆ แก่ผู้ใช้ลริการ เพื่อประกอบการตัดสินใจใช้บริการ การแสดออกถึงความเอาใจใส่
และเห็นความสำคัญของผู้ใช้บริการตลอดระยะเวลาของการใช้บริการ และการเสอนบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ย่อมสร้างความพึงพใจให้กับลูกค้า ทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นในสินค้าและบริการที่เข้าตัดสินใจซื้อหรือ
ใช้บริการ การบริหารจัดการให้บริการที่ทำให้ลูกค้ามีความน่าเชื่อถือ สร้างความั่นใจให้กับผู้ใช้บริการเป็นสิ่งสำคัญ
ซึ่งธุรกิจค่ายมวยไทยมีการแข่งขันด้านการให้บริการอย่างมาก ทั้งในด้านความสะอาดและกว้างขวางของสถานที่ มาตรฐานของอุปกรณ์การฝึก ประสบการณ์ของครูมวยไทย กิจกรรมนันทนาการเพื่อผ่อนคลายหลังการฝึกซ้อม
โปแกรมเสริมสุขภาพต่าง และสิ่งอำนวยความสะดวกด้านอื่น ๆ เป็นผลทำให้การการให้บริการจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องต้องมีคุณภาพการให้บริการที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจใช้บริการและธุรกิจประสบความสำเร็จสูงสุด

            ดังนั้นการดำเนินธุรกิจมวยไทยให้มีประสิทธิภาพ ต้องคำนึงถึงคุณภาพการให้บริการเป็นส่วนสำคัญ ผู้วิจัยจึงมีความสนใจในการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพการให้บริการกับการตัดสินใจเข้ามาเรียนมวยไทยของลูกค้าชาวต่างชาติ ในค่ายมวยไทยกรุงเทพมหานคร  เพื่อเป็นฐานข้อมูลให้หน่วยงานองค์กรที่เกี่ยวข้อง และเป็นข้อมูลให้ผู้ที่สนใจในการจัดทำธุรกิจค่ายมวยไทยสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในวางแผนหรือกลยุทธ์เพื่อที่จะสามารถแข่งขันและพัฒนาธุรกิจเพื่อก่อให้เกิดความมั่นคงในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป

วัตถุประสงค์ของการวิจัย

1. เพื่อศึกษาคุณภาพการให้บริการที่กค้าชาวต่างชาติได้รับจากค่ายมวยไทยกรุงเทพมหานคร
2. เพื่อศึกษาการตัดสินใจเข้ามาเรียนมวยไทยของลูกค้าชาวต่างชาติ ในค่ายมวยไทยกรุงเทพมหานคร
3. เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าวคุณภาพการให้บริการกับการตัดสินใจเข้ามาเรียนมวยไทยของกค้าชาวต่างชาติ ในค่ายมวยไทยกรุงเทพมหานคร

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการวิจัย

1. 1. ผู้ที่สนใจในการเริ่มทำธุรกิจค่ายมวยไทยสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในวางแผนธุรกิจได้
2. 2. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำผลการวิจัยไปเป็นแนวทางในการกำหนดนโยบายเพื่อปรับปรุงค่ายมวยไทยเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าชาวต่างชาติให้มากที่สุด
3. 3. ใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพในการให้บริการ เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจมาใช้บริการค่ายมวยไทย สามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจ

วิธีดำเนินการวิจัย

ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง

       ประชากร คือ ลูกค้าชาวต่างชาติผู้ที่เคยมาเรียนมวยไทยในกรุงเทพมหานคร ซึ่งไม่ทราบจำนวนตัวเลขที่แน่นอน

       กลุ่มตัวอย่าง จากลักษณะประชากรดังกล่าวที่ไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน ผู้วิจัยได้หาขนาดของกลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ โดยใช้สูตรการหาขนาดกลุ่มตัวอย่างของ (Cochran, 1953) เนื่องจากยังไม่เคยมีการเก็บข้อมูลสถิติผู้เรียนมวยไทยในกรุงเทพมหานคร จึงไม่มีการระบุตัวเลขที่แน่นอน ผู้วิจัยได้กำหนดความเชื่อมั่นอย่างต่ำที่ความเชื่อมั่นร้อยละ 95 ดังนี้

                                                                                                        n =P(1-P)(Z)²

                                                                                                             ————

                                                                                                                   e²

                           เมื่อ n = ขนาดของกลุ่มตัวอย่าง

                           E = ค่าเปอร์เซ็นต์ความคลาดเคลื่อนจากการสุ่มตัวอย่างในที่นี้กำหนดที่ระดับ 5%

                          P = ค่าเปอร์เซ็นต์ที่ต้องการสุ่มจากประชากรทั้งหมด = 50 %

                          Z = ค่าระดับความเชื่อมั่น ในที่นี้กำหนดไว้ที่ ระดับความเชื่อมั่น 95%
                          Z มีค่าเท่ากับ 1.96

                             แทนค่าในสูตร ดังนี้

                                                                n =(0.50)(1-0.50)(1.96)²

                                                                     ————————

                                                                                0.05²

                                                                n = 384

               จากการแทนค่าในสูตรดังกล่าว ผู้วิจัยได้ขนาดของกลุ่มตัวอย่างเป็น 384 คน แต่ในการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยจะเพิ่มการเก็บรวบรวมข้อมูลจากลุ่มตัวอย่างเป็น 400 คน โดยการสุ่มตัวอย่างแบบสะดวก (convenience)

ผลการวิจัยและการอภิปรายผล

ผลการวิจัย

1. คุณภาพการให้บริการที่ลูกค้าชาวต่างชาติได้รับจากค่ายมวยไทยกรุงเทพมหานคร

พบว่า คุณภาพการให้บริการที่ลูกค้าชาวต่างชาติได้รับจากค่ายมวยไทยกรุงเทพมหานคร ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อแยกพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ Assurance (การให้ความมั่นใจ) รองลงมาคือ Tangible (ความเป็นรูปธรรมของบริการ) และด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ Responsiveness
(การตอบสนองความต้องการ) ทั้งนี้จากคุณภาพการให้บริการที่ลูกค้าชาวต่างชาติ ได้รับ จำนวน 5 ด้าน พบว่า
อยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน

1. การตัดสินใจเข้ามาเรียนมวยไทยของลูกค้าชาวต่างชาติ ในค่ายมวยไทยกรุงเทพมหานคร

พบว่า ลูกค้าชาวต่างชาติ มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการตัดสินใจเข้ามาเรียนมวยไทย ในค่ายมวยไทยกรุงเทพมหานคร ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อแยกพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ ตัดสินใจมาเรียนเพราะต้องการมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง รองลงมา คือ ต้องการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ส่วนข้อ
ที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ ตัดสินใจมาเรียนเพราะเพื่อนแนะนำ 

1. ความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพการให้บริการกับการตัดสินใจเข้ามาเรียนมวยไทยของลูกค้าชาวต่างชาติ ในค่ายมวยไทยกรุงเทพมหานคร

พบว่า ผลการการวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์คุณภาพในการให้บริการ (X) กับการตัดสินใจเข้ามาเรียนมวยไทยของลูกค้าชาวต่างชาติ ในค่ายมวยไทยกรุงเทพมหานคร พบว่า คุณภาพในการให้บริการทุกด้านมีความสัมพันธ์ในเชิงบวกหรือไปในทิศทางเดียวกัน และเมื่อพิจารณาแต่ละด้าน พบว่า ด้านที่มีความสัมพันธ์มากที่สุด คือ Responsiveness (การตอบสนองความต้องการ) X3 มีความสัมพันธ์ในเชิงบวกและมีความสัมพันธ์ระดับสูง นั่นหมายความว่าหากลูกค้าชาวต่างชาติมีความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณภาพการให้บริการด้าน Responsiveness (การตอบสนองความต้องการ)เพิ่มขึ้น การตัดสินใจเข้ามาเรียนมวยไทยของลูกค้าชาวต่างชาติ ในค่ายมวยไทย
กรุงเทพมหานครจะเพิ่มขึ้นด้วย สำหรับคุณภาพในการให้บริการ ด้าน Assurance (การให้ความมั่นใจ) X4 และด้าน Empathy (การเอาใจใส่) X5 มีความสัมพันธ์ในเชิงบวกและมีความสัมพันธ์ระดับปานกลาง ส่วนด้าน Tangible (ความเป็นรูปธรรมของบริการ) X1 และด้าน Reliability (ความน่าเชื่อถือ) X2 มีความสัมพันธ์ในเชิงบวกและมีความสัมพันธ์ระดับต่ำ

อภิปรายผล

             จากผลของวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาคุณภาพการให้บริการที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้รับจากค่ายมวยไทย กรุงเทพมหานคร พบว่าด้านการตอบสนองความต้องการ ลูกค้าชาวต่างชาติมีความคิดเห็นน้อยที่สุด โดยเฉพาะในเรื่องของเวลาที่ให้บริการและมีการติดต่อประสานงานอย่างต่อเนื่องก่อนและหลังบริการ อาจเป็นเพราะลูกค้าชาวต่างชาติมีการเดินทางมาจากทวีปต่าง ๆ ต้องมีการปรับตัวเรื่องของเวลาและการพูดคุยประสานงาน ซึ่งสิ่งที่ความสำคัญ หากค่ายมวยไทยมีความยืดหยุ่นเปิดโอกาสให้ลูกค้าปรับเปลี่ยนเรื่องเวลาให้บริการได้ตามที่ลูกค้าปรารถนา รวมถึงการสร้างความผูกพันอย่างแน่นแฟ้นในการในการติดต่อประสานงานกันอย่าต่อเนื่อง ก็จะเป็น
การสร้างจุดเด่นในการตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าได้ ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ เตชิตา ไชยอ่อน (2557) ศึกษาความคาดหวังของลูกค้าขาวต่างชาติที่มีต่อคุณภาพการให้บริการของค่ายมวยไทย พบว่า ลูกค้าชาวต่างชาติมีความคาดหวังต่อคุณภาพการให้บริการของค่ายมวยไทย ภาพรวมอยู่ในระดับสูงที่สุด

            จากการทดสอบวัตถุประสงค์ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพการให้บริการกับการตัดสินใจเข้ามาเรียนมวยไทยของลูกค้าชาวต่างชาติ ในค่ายมวยไทยกรุงเทพมหานคร ผลการวิจัยพบว่า คุณภาพการให้ บริการด้าน Responsiveness (การตอบสนองความต้องการ) มีความสัมพันธ์เชิงบวกไปในทิศทางเดียวกันระดับสูงกับการตัดสินใจเข้ามาเรียนมวยไทยของลูกค้าชาวต่างชาติ ในค่ายมวยไทยกรุงเทพมหานคร เนื่องจากการตอบสนองความต้องการ ถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่ให้ความสำคัญกับการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าในระดับสูง โดยเฉพาะในเรื่องของความเต็มใจและอุทิศเวลาในการให้บริการอย่างเต็มที่ ปฏิบัติต่อลูกค้าอย่างดี มีความรวดเร็วในการตอบสนองความต้องการ การติดต่อประสานอย่างต่อเนื่องก่อนและหลังบริการ ซึ่งเป็นการส่งมอบคุณค่าและประโยชน์ให้กับลูกค้า สิ่งเหล่านี้จะยิ่งทำให้ลูกค้าสินใจเข้ามาใช้บริการมวยไทย ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของชาญชัย ยมดิษฐ์ และคณะ (2561) ศึกษาความคาดหวังและความสำเร็จที่เป็นจริงเกี่ยวกับการมาเรียนมวยไทยของนักท่องเที่ยว
            ชาวต่างประเทศที่มาเรียนมวยไทยในค่ายมวยไทย ผลการวิจัยพบว่าค่าเฉลี่ยความสัมพันธ์ระหว่างความคาดหวังกับสภาพความจริงพบว่า มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ในภาพรวมทุกด้าน ได้แก่
ความมั่นใจในความสำเร็จจากการเรียน การเอาใจใส่ดูแลจากหัวหน้าค่าย สัดส่วนครูฝึกต่อผู้เรียนมีความเหมาะสม การจัดอุปกรณ์การฝึกซ้อมที่มีคุณภาพและเพียงพอ ความน่าเชื่อถือของค่ายมวย การจัดบรรยากาศการเรียนที่เหมาะสมของค่าย การเอาใจใส่ดูแลจากครูฝึกในค่าย ค่ายมวยมีค่าใช้จ่ายที่เป็นธรรม การเอาใจใส่ดูแลจากเพื่อนนักมวยไทย รวมถึง สอดคล้องกับ สุธามาศ โคกชู และคณะ (2562) ที่ได้ศึกษาเรื่อง คุณภาพในการให้บริการของยิมมวยไทย RSM Academy  ผลการวิจัยพบว่า ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อายุระหว่าง 25 - 35 ปี การศึกษาระดับปริญญาตรี รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 15,001 - 20,000 บาท สถานภาพ โสด และจำนวนครั้งที่มาใช้บริการ 5 ครั้ง คุณภาพในการให้บริการของยิมมวยไทย RSM Academy พบว่าภาพรวมอยู่ที่ระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านโดยเรียงล าดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย พบว่า ค่าเฉลี่ยมาก ที่สุดได้แก่ ด้านการดูแลเอาใจใส่ รองลงมาได้แก่ ด้านการตอบสนองคุณภาพการบริการ ด้านรูปลักษณ์ ทางกายภาพ ด้านการสร้างความมั่นใจ และน้อยที่สุด ด้านความน่าเชื่อถือ ตามลำดับ

ข้อเสนอแนะ

         จากผลการศึกษาวิจัย ความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพการให้บริการกับการตัดสินใจเข้ามาเรียนมวยไทยของลูกค้าชาวต่างชาติ ในค่ายมวยไทยกรุงเทพมหานคร ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะดังนี้

1. ลูกค้าชาวต่างชาติมีความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณภาพในการบริการ ซึ่งผลการวิจัยพบว่าด้านการตอบสนองของลูกค้ามีค่าเฉลี่ยในลำดับที่น้อยที่สุด ดังนั้นหากค่ามวยไทยควรมุ่งเน้นพัฒนาในเรื่องของเวลาที่ให้บริการและ
   มีการติดต่อประสานงานอย่างต่อเนื่องก่อนและหลังบริการ จะยิ่งทำให้ค่ายมวยไทยมีคุณภาพมากขึ้น  
2. คุณภาพการให้บริการด้านการตอบสนองความต้องการ มีความสัมพันธ์สูงกับการตัดสินใจเข้ามาเรียนมวยไทยของลูกค้าชาวต่างชาติ ดังนั้น ค่ายมวยไทยควรมีการวางแผนสร้างกลยุทธ์เพื่อตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าตรงตามความปรามถนา เช่น มีความยึดหยุ่นเรื่องของเวลาการให้บริการ การติดต่อประสานงานอย่างต่อเนื่อง ความเต็มใจและอุทิศเวลาในการให้บริการอย่างเต็มที่ ปฏิบัติต่อลูกค้าอย่างดี และมีความรวดเร็วใน
   การให้บริการ สิ่งเหล่านี้หากค่ายมวยให้ความสำคัญในการปรับปรุงและพัฒนา จะยิ่งทำให้ลูกค้าชาวต่างชาติ
   เข้ามาใช้บริการค่ายมวยไทย

ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งต่อไป

            ควรมีศึกษาคุณภาพการให้บริการของค่ายมวยไทยทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ที่มีชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยว เพื่อสามารถนาข้อมูลมาพัฒนาการให้บริการธุรกิจมวยไทยควบคู่กับการท่องเที่ยว

เอกสารอ้างอิง

ชาญชัย ยมดิษฐ์, บารมี ชูชัย,รุ่งนภา สิงห์สถิตย์, และ นัฏกร สุขเสริม. (2561). แนวทางการเชื่อมโยง
          การท่องเที่ยวเชิงกีฬาในกลุ่มภูมิภาคอาเซียนโดยใช้วัฒนธรรมท้องถิ่น มวยสุวรรณภูมิ
         (มวยไทย มวยพม่า มวยเขมร และมวย ลาว) สู่การเป็นหนึ่งจุดหมายหลายประสบการณ์
          ขยายฐานการท่องเที่ยวในภูมิภาค. กรุงเทพฯ: เครือข่ายองค์กรบริหารงานวิจัยแห่งชาติ. คอบช.

ชาญชัย ยมดิษฐ์. (2553). รายงานการวิจัยการพัฒนาการเรียนการสอนผ่านเว็บสำหรับนักศึกษา

          วิทยาลัยมวยไทยศึกษาและการแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง. ราชบุรี: มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง.

เตชิตา ไชยอ่อน. (2557). ความคาดหวังของลูกค้าชาวต่างชาติที่มีต่อคุณภาพการให้บริการของค่ายมวยไทย.

          วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการภาครับเอกชน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร. 

สุธา มาศโคกชู และคณะ. (2563) คุณภาพในการให้บริการของยิมมวยไทย RSM Academy  .

          วารสารเครือข่ายส่งเสริมการวิจัยทางมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 2(3), 12-21

สุเทพ แก้วรัตน์. (2562). รูปแบบการบริหารจัดการค่ายมวยไทยเพื่อสอนชาวต่างประเทศ.

          วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชามวยไทยศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง.

สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ. (2540). ศิลปะมวยไทย. กรุงเทพฯ : ผู้แต่ง.

สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ. . (2558). ศิลปะมวยไทย. กรุงเทพฯ : ผู้แต่ง.

Cochran, W.G.  (1953).  Sampling Techniques.  New York: John Wiley & Sons.

Vail, P. (2014). Muay Thai: Inventing Tradition for a National Symbol. Sojourn: Journal of Social Issues

          in Southeast Asia 29, 509 - 553.